ข้อดี - ข้อเสีย ของประตูแต่ละชนิด

อัปเดตเมื่อ 15 ก.ค. 2562

ประตูที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้มีอยู่มากมายหลากหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งแต่ละชนิดต่างก็มีทั้งข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหมายรวมไปถึงความเหมาะสมของการนำไปใช้ในแต่ละพื้นที่ที่คุณควรให้ความ สนใจด้วย

ประตูไม้จริง ประตูไม้จริงถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้วไม้ส่วนใหญ่ที่นิยมนำมาทำประตูนั้น ได้แก่ ไม้สน ไม้โอ๊ค ไม้แอช ไม้เนื้อแข็งชนิดต่างๆ

ข้อดี - มีความแข็งแรง คงทน ลายไม้ธรรมชาติ เพิ่มลูกเล่น การตกแต่ง ให้กับบ้านได้อย่างลงตัว

อายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 15 ปีขึ้นไป ประตูไม้บางชนิดสามารถใช้ติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอก เนื่องจากมีคุณสมบัติในการ ทนแแดด ทนฝน ได้ดี เช่น ไม้เทอร์ไมวู๊ด , ไม้สนอัดน้ำยา MCA

ข้อเสีย - ประตูไม้บางชนิด เหมาะที่จะใช้ติดตั้งภายในเท่านั้น เพราะหากนำไปติดตั้งภายนอกอาจทำ ให้อายุการใช้งานสั้นเพียง 3-5 ปี ควรใช้ไม้ที่เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น

ประตูไม้อัด เป็นประตูที่มีโครงสร้างด้านในเป็นไม้แล้วปิดทับหน้าด้วยไม้อัด โดยไม้อัดนี้ก็มีทั้งชนิดที่ทำมาจากการอัดรวมของไม้หลายๆชนิด

ข้อดี - น้ำหนักเบา ราคาถูก ข้อเสีย - ผุง่าย ไม่แข็งแรงคงทนเท่าที่ควร ไม่ทนต่อความชื้นและแสงแดด ไม่เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งภายนอกเพราะจะทำให้อายุการใช้งานสั้น

ประตู PVC ประตู ชนิดนี้จะมีโครงด้านในที่ผลิตจากวัสดุประเภทเหล็ก หรือ อลูมิเนียม โดยจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทผู้ผลิต และปิดทับหน้าด้วยแผ่นประตู PVC ที่ผ่านการทำสีพร้อมลวดลายที่สวยงาม

ข้อดี - มีให้เลือกหลากสี ราคาถูก ไม่มีปัญหาเรื่องความชื้นและปลวก ไม่ผุ ไม่หด บวม หรือบิดงอ ข้อเสีย - ไม่เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งภายนอกและบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง เพราะความร้อนจากแสงแดดจะทำให้บานประตูกรอบเสียหายได้ อีกทั้งบานประตูยังง่ายต่อการงัดแงะเพื่อการโจรกรรม ดังนั้น จึงเหมาะสำหรับการใช้ติดตั้งภายในมากกว่า เช่น ประตูห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ฯลฯ

( รุปรีวิวสินค้า #ประตูไม้ งานลูกค้าสั่งผลิต Interwoodtimber )

การติดตั้งประตู - ติดตั้งวงกบ

เลือกชนิดวงกบให้เข้ากับชนิดของประตู เพราะจะทำให้การติดตั้งทำได้ง่ายขึ้น - ทาบประตูกับช่องวงกบ

ทาบบานประตูกับช่องวงกบจากด้านใน ยกบานประตูให้ด้านที่ใช้ยึดบานพับแนบสนิทกับวงกบ

หากไม่แนบสนิทตลอดแนวความยาวให้ไสเรียบตกแต่งกรอบบานประตูให้เรียบเสมอกัน จากนั้นเช็คขอบประตูกับขนาดช่องวงกบอีกด้าน หากความกว้างของประตูเกินขนาดความกว้างของช่องวงกบ

ให้ใช้กบไสเรียบออกหรือหากต้องตัดออกมากให้ตัดด้วยเลื่อนลันดาแล้วใช้กบไส ให้เรียบอีกครั้ง

สำหรับด้านความสูงควรติดตั้งประตูให้สูงจากพื้นประมาณ 1/2 - 1 ซม.

**สำหรับห้องน้ำควรให้สูงจากพื้นประมาณ 2- 3 นิ้ว เพื่อป้องกันความชื้น**

( รุปรีวิวสินค้า #ประตูไม้ งานลูกค้าสั่งผลิต Interwoodtimber )

- ติดบานพับ

วัดระยะเพื่อติดตั้งบานพับจากขอบประตูด้านบนลงมา 7 นิ้ว และจากขอบด้านล่างขึ้นมา 11 นิ้ว

สำหรับตัวกลางให้อยู่ระหว่างตัวบนและตัวล่างในระยะห่างเท่าๆ กัน ใช้สิ่วแซะที่สันประตูบริเวณที่จะติดตั้งบานพับ โดยแซะให้มีความลึกเท่ากับความหนาปีกบานพับ และความกว้างเท่ากับความกว้างของปีกบานพับ จากนั้นยึดบานพับกับประตูด้วยสกรูเกลียวปล่อย ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้บานพับจำนวน 3 ตัวในการติดตั้ง แต่สำหรับบานประตูไม้จริงและบานประตูแผ่นใยไม้อัดแข็งควรติดตั้งบานพับจำนวน 4 ตัวเป็นอย่างต่ำเพื่อป้องกันปัญหาเรื่องประตูตก เนื่องจากประตูทั้ง 2 ชนิด มีน้ำหนักมาก โดยติดบานพับตัวที่ 1 กับตัวที่ 2 ให้มีระยะห่างกันประมาณ 1/2 - 1 ซม. สำหรับตัวที่ 3 และ 4 ติดกลางและท้ายเช่นเดียวกับการติดบานพับแบบ 3 ตัว จากนั้นวัดระยะสำหรับการติดบานพับกับวงกบโดยใช้วิธีการติดตั้งเช่นเดียวกับ

การติดตั้้งบานพับที่ของประตู แต่ให้ยึดสกรูไว้ 1 ตัวที่ช่องแรกของบานพับทุกตัวเพื่อทดลองเปิด - ปิด หากเปิด - ปิดได้คล่องไม่ติดขัดจึงค่อยยึดสกรูตัวอื่นๆ ให้ครบ แล้วค่อยใส่อุปกรณ์อื่นๆ ต่อไป

สุดท้ายนี้ การจะนำประตูแต่ละชนิดมาทำนั้น จะต้องตรวจสอบและสอบถามช่างผู้เชี่ยวชาญก่อนว่ามีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง และสามารถทำได้หรือไม่ด้วย เพื่อให้ได้ประตูออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุดนะคะ